ห้องน้ำสวยและปลอดภัยขึ้นด้วยวิธีจัดโซนเปียก-แห้งอย่างลงตัว

ห้องน้ำ คือ ส่วนสำคัญหนึ่งภายในบ้าน เพราะเป็นจุดของการชำระล้างร่างกายและการขับถ่าย ที่จะทำให้การใช้ชีวิตมีความสะดวกมากยิ่งขึ้น ดังนั้นการทำห้องน้ำจึงต้องตรงตามหลักที่ถูกต้อง เพื่อทำให้เกิดความปลอดภัยในการใช้งาน เนื่องมาจากภายในโซนห้องน้ำจะมีทั้งจุดอาบน้ำที่จะต้องเปียกอยู่เสมอและจุดของการแต่งตัว ห้องน้ำบ้านอาจจะมี กระจกแต่งหน้าภายในห้องน้ำเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งจุด ดังนั้นการแบ่งโซนแห้งและโซนเปียกจึงเป็นเรื่องสำคัญ ถ้าคุณกำลังทำห้องน้ำใหม่หรือต้องการรีโนเวทห้องน้ำเพื่อการแยกพื้นที่เปียกและแห้งให้ชัดเจน สามารถติดตามได้จากภายในบทความนี้

5 วิธีแยกโซนห้องน้ำเปียก-แห้ง เพื่อความสวยงาม ใช้งานได้ปลอดภัยมากขึ้น

การแยกโซนห้องน้ำทั้งพื้นที่เปียกและพื้นที่แห้ง นอกจากจะให้ความสวยงามของพื้นที่แล้วยังสามารถใช้ได้อย่างปลอดภัย โดยจะมีวิธีการทำพื้นที่เปียกและแห้งที่จะช่วยทำให้ห้องน้ำของคุณปลอดภัยมากกว่าเดิม ด้วยวิธีการดังต่อไปนี้

1. ทำขอบปูนเสริม

   ถ้าต้องการกั้นพื้นที่แห้ง-เปียกให้ชัดเจนแบบไม่ต้องเปลืองงบมาก คุณสามารถก่อขอบปูนเสริมที่โซนอาบน้ำ เน้นสร้างขอบเป็นแนวยาวปิดตรงส่วนพื้นที่เปียกโดยเฉพาะ ซึ่งการใส่ขอบปูนสำหรับการทำเป็นแนวกั้นเสริมนั้น ให้ทำด้วยความสูงตั้งแต่ 5-10 เซนติเมตร และทำรางท่อน้ำทิ้งแบบแนวยาว เพื่อทำให้การระบายน้ำเป็นไปได้ด้วยดี ระบายได้เร็ว นอกจากนี้ควรปรับระดับของพื้นที่ให้มีความลาดเอียงลงเล็กน้อย เพื่อเป็นการลดปัญหาน้ำขังภายในพื้นที่โซนเปียก เพียงเท่านี้ก็จะสามารถแบ่งพื้นที่เปียกและแห้งได้อย่างชัดเจน พร้อมให้ผลลัพธ์ที่ค่อนข้างดีเลยทีเดียว

2. ทำพื้นที่ต่างระดับ

   อีกหนึ่งวิธีที่น่าสนใจ คือ การทำพื้นที่ต่างระดับ โดยให้พื้นที่โซนเปียกมีระดับพื้นที่ต่ำกว่าพื้นที่ส่วนแห้ง ถ้าคุณไม่อยากจะเทพื้นของโซนแห้งให้สูงขึ้นจนกลายเป็นงบประมาณบานปลาย ให้คุณปรับพื้นที่โซนเปียกที่จะมีน้อยกว่าให้มีระดับที่ต่ำลง พร้อมการเลือกใช้กระเบื้องปูพื้นที่มีพื้นผิวสัมผัสค่อนข้างด้านเพิ่ม เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายในขณะที่อาบน้ำและควรใส่จุดระบายน้ำที่มีขนาดใหญ่ไว้ตรงกลางของพื้นที่เปียก เพื่อทำให้น้ำระบายออกได้ดีมากขึ้น

3. ใช้ฉากกั้น

   อีกหนึ่งวิธียอดฮิตของการแบ่งโซนพื้นที่แห้งและเปียกของห้อง ที่ให้ความชัดเจนและป้องกันปัญหาเรื่องน้ำกระเด็นออกจากโซนเปียกได้ดี คือ การใช้ฉากกั้นที่จะมีทั้งฉากกระจกใสแบบแข็ง, ฉากใสแบบ PVC และการกั้นผนังปูน ที่เลือกใช้เป็นปูนเปลือยสไตล์ลอฟท์, ปูกระเบื้องที่มีสีและลวดลายสวยงาม หรือเลือกใช้เป็นกระเบื้องโมเสคที่จะให้สีสันและลวดลายสดใส นอกจากนี้ยังสามารถนำบล็อกแก้วหลากสีมาทำฉากกั้นเพื่อเพิ่มความสวยงามได้เช่นกัน โดยจะให้การดูแลรักษาที่ง่ายและสะดวกต่อการทำความสะอาด ถ้าใช้ฉากกั้นในลักษณะนี้จะช่วยเพิ่มการป้องกันในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องน้ำกระเด็นออกจากฝักบัว, การป้องกันเชื้อราบนผนังโซนแห้ง และเพิ่มความเป็นส่วนตัวมากขึ้นอีกด้วย

4. เสริมด้วยห้องอาบน้ำ

   ถ้าต้องการวิธีกั้นโซนเปียกและแห้งที่ง่ายขึ้น คุณสามารถเลือกใช้เป็นห้องอาบน้ำสำเร็จที่เหมาะสมกับพื้นที่ห้องน้ำของคุณ เพียงแค่ซื้อมาแล้วติดตั้งก็สามารถใช้งานได้ทันที แต่จะต้องวัดพื้นที่ของห้องน้ำของคุณให้ดี เพื่อการเลือกซื้อห้องอาบน้ำที่เหมาะสมและสามารถนำมาลงกับพื้นที่ภายในห้องน้ำของคุณได้โดยไม่ก่อให้เกิดปัญหาใดๆ ซึ่งการใช้ห้องอาบน้ำแบบกระจกใสจะช่วยทำให้คุณมองเห็นบรรยากาศภายนอกได้ชัดเจน จึงไม่ทำให้ห้องน้ำดูอับหรือทึบจนเกินไปและช่วยป้องกันน้ำกระเด็นจากฝักบัวได้ดี จึงถือว่าเป็นการกั้นโซนเปียกและแห้งที่มีประสิทธิภาพเลยทีเดียว

5. ทำรางระบายน้ำใต้ฝักบัว

   ถ้าไม่ต้องการให้น้ำออกจากโซนพื้นที่เปียกมากจนเกินไป คุณควรทำรางระบายน้ำที่อยู่ใต้ฝักบัวเป็นแบบรางยาว เพื่อทำให้การระบายมีความรวดเร็วและทันต่อเวลา น้ำทิ้งจึงไม่เกินออกไปสู่โซนแห้ง ควรเลือกเป็นท่อระบายแบบกันกลิ่นและกันสิ่งสกปรกอุดตัน เพื่อทำให้การใช้งานไม่ยุ่งยากและช่วยทำให้น้ำระบายออกได้ดีในทุกๆ ครั้งที่ใช้งาน ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำขังหรือน้ำล้นจนเกินไปสู่โซนแห้งจนอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อการทำธุระต่างๆ ภายในห้องน้ำได้

   

งบน้อยไม่ต้องกังวล! 5 วิธีแยกโซนเปียก-แห้งห้องน้ำแบบง่ายๆ

ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ต้องการจะทำพื้นที่โซนเปียกและโซนแห้งภายในห้องน้ำของตัวเองให้แยกออกอย่างชัดเจน เพื่อทำให้การใช้งานของทุกคนภายในครอบครัวมีความปลอดภัยมากขึ้นและทำให้การทำความสะอาดเป็นไปอย่างสะดวก แต่ต้องการใช้งบประมาณน้อยและไม่ต้องการให้งบบานปลายมากเกินไป ขอแนะนำ 5 วิธีการแยกโซนเปียกและแห้งห้องน้ำแบบง่ายๆ ดังต่อไปนี้

1. ใช้รางผ้าม่าน

   ใช้เป็นรางผ้าม่านกั้น โดยรางผ้าม่านนั้นจะมีระบุขายสำหรับการกั้นโซนพื้นที่เปียกในห้องน้ำโดยเฉพาะ คุณเพียงแค่ซื้อ รางผ้าม่านที่จะมีทั้งราวเหล็กหรือราวสแตนเลส, ห่วงร้อยผ้าม่าน และตัวผ้าม่านมาแบบครบชุด จากนั้นนำรางมาติดตั้งในความสูงที่เหมาะสมและร้อยห่วงของผ้าม่านเข้าไปก็จะสามารถใช้งานได้อย่างรวดเร็ว ไม่ต้องเสียงบประมาณมากจนเกินไป ซึ่งผ้าม่านสำหรับกั้นห้องน้ำนั้นจะมีผ้าม่าน PVC , ผ้าม่าน PEVA และผ้าม่าน EVA ที่จะมาในรูปแบบของโพลิเมอร์พลาสติกที่มีคุณภาพสูง ไม่มีสารพิษตกค้าง พร้อมคุณสมบัติของการเคลือบเพื่อกันเชื้อรา มีลักษณะโปร่งแสง จึงทำให้ห้องน้ำสว่างขึ้น ลดปัญหาเรื่องกลิ่นได้ดี ไม่มีกลิ่นเหม็นฉุนของพลาสติกรบกวนและทนทานสูง สามารถทำความสะอาดจากคราบต่างๆ ภายในห้องน้ำได้อย่างรวดเร็ว ไม่อมต่อความชื้นและมีน้ำหนักเบา จึงไม่ทำให้รางผ้าม่านต้องรับน้ำหนักมากจนเกินไปและการเลื่อนเข้า-ออกเป็นเรื่องที่สะดวกมากขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถถอดออกเพื่อนำไปซักทำความสะอาดได้อีกด้วย

2. ใช้แนวกั้นขอบสำเร็จรูป

   แนวกั้นขอบแบบสำเร็จจะมาในรูปแบบของแนวกั้นพลาสติกและซิลิโคน ที่เพียงแค่วัดพื้นที่ภายในห้องน้ำของคุณ จากนั้นให้ซื้อแนวกั้นขอบสำเร็จที่มีขนาดความยาวเหมาะสมกับพื้นที่โซนเปียกในห้องน้ำแล้วนำมาติดตั้ง ด้วยวิธีการเจาะหรือการติดกาวพิเศษที่สามารถกันน้ำได้และอาจจะใช้เป็นการยิงซิลิโคนทับเพื่อทำให้แนวกั้นสำเร็จรูปนี้ติดกับพื้นอย่างง่ายดาย จึงทำให้เกิดความสะดวกต่อทั้งการติดตั้งและการใช้งาน มีความทนทาน ไม่หลุดง่าย ที่สำคัญคือราคาไม่สูงมากจนเกินไปอีกด้วย

3. กระเบื้องต่างลาย ต่างพื้นผิว

   ทำพื้นที่โซนเปียกและโซนแห้งได้ง่ายขึ้น ด้วยการใช้กระเบื้องต่างลายและต่างพื้นผิวกัน สำหรับโซนเปียกให้คุณเลือกเป็นกระเบื้องที่มีลวดลายสีเข้มและให้พื้นผิวหยาบ เพื่อป้องกันปัญหาเรื่องความลื่น สีเข้มจะไม่ทำให้ดูสกปรกง่าย หรือจะเลือกใช้เป็นหินกรวดและกระเบื้องที่เป็นลวดลายกับพื้นผิวเลียนแบบหินธรรมชาติ เพื่อทำให้การอาบน้ำมีความปลอดภัย ไม่ลื่นและทำความสะอาดได้ง่าย ส่วนบนพื้นที่แห้งให้ใช้กระเบื้องโทนสีอ่อน เพื่อทำให้ห้องน้ำเกิดความสว่างและมองเห็นส่วนต่างๆ ภายในห้องน้ำได้ชัดและเลือกใช้พื้นผิวทั่วไป แต่ไม่ควรเลือกเป็นพื้นผิวลื่นเพราะอาจจะก่อให้เกิดอันตรายได้ง่าย

4. พรมเช็ดเท้า

   ถ้าใช้การแยกพื้นที่โซนเปียก-แห้งแบบใช้ลวดลายกระเบื้องหรือเป็นการใช้ขอบสำเร็จ รวมไปถึงขอบปูน สิ่งที่คุณควรมีภายในห้องน้ำเพื่อการแบ่งโซนเปียกและแห้งให้ชัดเจน คือ พรมเช็ดเท้า เพราะน้ำอาจกระเด็นออกมาพื้นที่แห้งได้ง่ายและการที่คุณก้าวออกจากพื้นที่เปียกจะมีรอยเท้าที่เป็นน้ำและอาจจะทำให้คุณลื่นรอยเท้าของตัวเองได้ ดังนั้นจึงควรมีพรมเช็ดเท้าหรือผ้าสำหรับซับน้ำที่กระเด็นออกมาจากภายในห้องน้ำโดยเฉพาะ เพื่อไม่ทำให้โซนแห้งเกิดปัญหา ซึ่งผ้าหรือพรมเช็ดเท้านี้ควรเปลี่ยนบ่อยครั้ง เพื่อการทำความสะอาดได้ดีขึ้นและช่วยลดความชื้นภายในห้องน้ำอีกด้วย

5. เพิ่มพื้นรางไม้

   เพิ่มพื้นที่เป็นรางไม้ในส่วนของโซนเปียก โดยให้ปูรางไม้ตรงจุดที่อาบน้ำเท่านั้นและซ่อนรางน้ำทิ้งให้อยู่ใต้พื้นไม้อีก 1 ชั้น ซึ่งพื้นไม้นั้นจะลดการกระเด็นของน้ำได้ดีและทำความสะอาดได้ง่าย ทั้งยังเป็นการกรองสิ่งสกปรกไว้อีกหนึ่งชั้น ถ้าต้องการประหยัดงบเลือกใช้เป็นพื้นไม้เทียมที่ราคาถูกกว่า ทำความสะอาดได้ง่ายกว่า และมีการเคลือบเพื่อป้องกันเชื้อรา และป้องกันปลวกไว้อย่างครบถ้วน

3 สาเหตุที่ทำให้ต้องแยกโซนเปียกกับโซนแห้ง

เชื่อว่าใครหลายคนๆ อาจจะยังรู้สึกสงสัยว่าทำไมภายในห้องน้ำจึงจำเป็นจะต้องแยกโซนเปียกและแห้งอย่างชัดเจน ดังนั้นลองมาดู 3 สาเหตุหลักในการแยกพื้นที่เปียก-แห้งภายในห้องน้ำดังต่อไปนี้

1. การใช้งานที่ปลอดภัย

   การแยกโซนใช้งานระหว่างพื้นที่เปียกและพื้นที่แห้งที่มีความชัดเจน จะช่วยทำให้ทุกคนที่เข้ามาใช้งานเกิดความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น เพราะการเหยียบพื้นเปียกไปทั่วห้องน้ำจะมีโอกาสสูงที่ทำให้คุณลื่นล้มง่าย ซึ่งภายในห้องน้ำจะมีทั้งอ่างล้างหน้าและจุดต่างๆ ที่เป็นอันตรายค่อนข้างมาก ถ้าล้มแล้วเกิดการกระแทกก็แทบจะทำให้ถึงแก่ชีวิตได้เลยทีเดียว นอกจากนี้ยังเป็นเรื่องของเชื้อราที่มาจากความชื้นภายในห้องน้ำ ถ้ามีการแยกโซนพื้นที่เปียกกับแห้งชัดเจน จะไม่ทำให้เชื้อราลุกลามไปสู่ส่วนอื่นๆ ของห้องน้ำ การเข้ามาใช้ห้องน้ำจึงมีความสะอาดและปลอดภัยมากขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยกักเก็บเชื้อโรคที่ มากับน้ำเสียได้ดีอีกด้วย

2. ให้ความสวยงาม

   เมื่อแบ่งพื้นที่โซนเปียกและโซนแห้งภายในห้องน้ำไว้อย่างชัดเจนแล้ว จะทำให้ห้องน้ำของคุณสวยงามมากขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่โซนเปียกจะไม่มีคราบน้ำและไม่มีคราบเชื้อโรคใดๆ จึงทำให้การทำความสะอาดเป็นเรื่องที่ง่ายและตกแต่งด้วยสติ๊กเกอร์, วอลเปเปอร์ หรือการติดราวผ้ามีความทนทานมากขึ้น นอกจากนี้การสร้างผนังกั้นเป็นอิฐบล็อกแก้วที่มีสีสันหรือใช้กระเบื้องโมเสค รวมไปถึงการใช้กระจกใสกั้นจะเป็นอีกหนึ่งความสวยงามที่ทำให้ห้องน้ำดูหรูหราและน่าใช้มากขึ้น

3. ทำความสะอาดง่าย

   ถ้าคุณเคยใช้ห้องน้ำที่ไม่มีการแยกโซนเปียกและแห้งมาก่อน จะรู้ดีว่าการทำความสะอาดจะเหนื่อยหนักมาก เพราะจะต้องทำทั้งห้องน้ำ ไม่ว่าจะเป็นส่วนพื้น, ผนัง, กระจก, สุขภัณฑ์ และทำความสะอาดไปจนแทบจะถึงเพดานเลยทีเดียว แต่ถ้าเลือกใช้เป็นการแยกโซนเปียกและแห้งชัดเจน คุณสามารถทำความสะอาดและลงน้ำยาบ่อยครั้งที่โซนเปียกเท่านั้น ส่วนโซนแห้งอาจจะทำความสะอาดสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง และไม่ต้องกังวลเรื่องเชื้อราเกาะผนังหรือส่วนต่างๆ ของห้องมากเกินไป เพราะถูกจัดโซนไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ความชื้นจึงจะอยู่ตรงส่วนเปียกมากกว่าโซนแห้ง ดังนั้นการทำความสะอาดของคุณจึงไม่ต้องเหนื่อยมากจนเกินไป

5 ไอเดียตกแต่งห้องน้ำให้สวยขึ้นแบบประหยัดงบ

เมื่อคุณทำโซนแห้งและส่วนเปียกแยกออกจากกันได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เรื่องต่อไปที่คุณควรรู้ คือ ไอเดียของการตกแต่งห้องน้ำ เพื่อทำให้สวยขึ้นและไม่ต้องอายใครด้วย 5 ไอเดียตกแต่งที่ประหยัดงบประมาณได้มากขึ้น ไม่ต้องเสียเงินตกแต่งมากจนเกินไป ดังต่อไปนี้

1. ตกแต่งผนังด้วยกระเบื้องเซรามิค

   เพิ่มความสวยให้ผนังด้วยการตกแต่งจากกระเบื้องเซรามิคที่เป็นรูปทรงแบบเรขาคณิต จะให้สไตล์ที่มีความเป็น Modern มากขึ้น พร้อมการเลือกใช้ผนังโซนเปียกกับโซนแห้งให้ต่างกันอย่างชัดเจน เช่น โซนเปียกสีดำ โซนแห้งสีขาว หรือโซนเปียกเป็นโทนสีเข้มและโซนแห้งเป็นโทนสีอ่อน เพื่อทำให้เกิดความสมดุลกันและเป็นการสร้างความน่าสนใจให้กับห้องน้ำหรือเลือกใช้เป็นลวดลายของกระเบื้องในสไตล์เดียวกัน มีสีที่ใกล้เคียงกัน เพื่อทำให้ห้องน้ำดูสวยและโดดเด่นขึ้นมาทันที

2. ตกแต่งด้วยตู้ Built in ลอยตัว

   การตกแต่งด้วยตู้ Built in  Bathroom แบบลอยตัวจะช่วยทำให้ประหยัดพื้นที่ภายในห้องน้ำและทำให้ห้องดูสวยขึ้น พร้อมการทำความสะอาดที่ง่ายกว่าเดิม ควรเลือกใช้เป็นตู้ไม้โทนสีเดียวกับผนังโซนแห้ง สามารถติดตั้งได้ทั้งแบบตู้ Built in ลอยตัวด้านบนหรือตู้ Built in ลอยตัวตรงจุดใต้อ่างล้างหน้า เพื่อการเก็บของต่างๆ ภายในห้องน้ำและเป็นการตกแต่งที่จะทำให้ห้องน้ำดูสวยและประหยัดพื้นที่มากขึ้น

3. ตกแต่งด้วยไม้ระแนง

   เพิ่มความสวยมากขึ้นด้วยไม้ระแนงแบบไม้เทียมที่ราคาไม่สูงมาก สามารถซื้อมาติดตั้งให้เป็นลวดลายที่สวยงามบนผนังหรือจะใช้เป็นพื้นไม้ระแนงเพื่อเพิ่มจุดน่าสนใจให้โซนเปียกได้เช่นกันและให้เลือกใช้เป็นโทนสีที่เหมาะสมเช่นเดียวกับกระเบื้อง ถ้าใช้ในโซนเปียกควรใช้เป็นโทนสีเข้มและถ้าใช้ในโซนแห้งควรใช้เป็นโทนสีอ่อน

4. ตกแต่งด้วยกระจก

   การใช้กระจกภายในห้องน้ำ คุณสามารถเลือกได้ทั้งแบบทรงเหลี่ยม ทรงกลม และทรงเรขาคณิตที่จะให้ความสวยงามที่ดูทันสมัยกับห้องน้ำมากขึ้น พร้อมทำให้ห้องสว่างเพราะช่วยกระจายแสงไฟกับแสงธรรมชาติได้ทั่วถึงทั้งห้อง ทั้งยังช่วยพรางตาให้กว้างมากขึ้นอีกด้วย

5. เน้นบรรยากาศธรรมชาติ

   ถ้าต้องการให้ห้องน้ำดูสดชื่นและมีรสนิยมมากขึ้น ให้คุณตกแต่งห้องน้ำที่มีบรรยากาศใกล้ชิดกับธรรมชาติ เช่น การใช้กระเบื้องที่มีลวดลายเลียนแบบหินแท้, การใช้หินกรวดตรงโซนเปียก หรือการปลูกไม้ประดับและไม้ฟอกอากาศไว้ภายในห้องน้ำ เพียงเท่านี้ก็จะทำให้ห้องน้ำของคุณดูสวยโดดเด่น มีอากาศที่ดี สามารถรับแขกได้อย่างไม่อายใครแน่นอน

ถ้าคุณต้องการให้ห้องน้ำที่ใช้งานอยู่ได้ทั้งความสวยและความปลอดภัยต่อมากขึ้น คุณสามารถใช้วิธีการแยกโซนเปียกและแห้งตามที่กล่าวมาข้างต้น พร้อมใช้ไอเดียการแต่งห้องน้ำที่คุณไม่จำเป็นต้องเสียเงินเพิ่มมากจนเกินไปภายในบทความนี้ เชื่อว่าคุณจะสามารถปรับเปลี่ยนห้องน้ำให้ถูกใจผู้ใช้และเกิดความปลอดภัยได้มากขึ้นอย่างแน่นอน