สำหรับผู้ที่ไม่ได้อยู่เป็นบ้านพักส่วนตัว แต่เป็นการอาศัยอยู่ภายในห้องอพาร์ทเม้นท์หรือคอนโดที่ขนาดไม่ใหญ่มาก คุณจำเป็นจะต้อง ตกแต่งห้องขนาดเล็ก และจัดพื้นที่ให้เหมาะสม ไม่ทำให้ห้องดูรกและแคบจนเกินไป เพื่อทำให้การใช้ชีวิตในแต่ละวันเกิดความรู้สึกผ่อนคลายและสบายใจมากที่สุด การทำให้ห้องเล็กดูกว้างขึ้นจึงกลายเป็นเรื่องสำคัญ ดังนั้นลองมาดูวิธีการทำห้องเล็กให้ดูกว้างและจัดวางของภายในห้องได้อย่างสมดุล เพิ่มคุณภาพชีวิตกับการตกแต่งห้องเล็กๆให้ดีกว่าเดิมแบบไม่ยุ่งยากและใครก็สามารถทำได้ โดยไม่จำเป็นต้องรีโนเวทใหม่ให้เปลืองงบประมาณด้วยคำแนะนำต่อไปนี้
5 วิธีแต่งห้องขนาดเล็กให้มีพื้นที่เพิ่มขึ้น ไม่ว่าห้องแบบไหนก็ทำได้
ถ้าคุณต้องย้ายเข้าสู่ห้องพักขนาดเล็กตั้งแต่ 3×3 เมตร ถึง 4×5 เมตรขึ้นไป อาจจะทำให้คุณรู้สึกว่าห้องดูแคบเกินกว่าวางของได้ แม้แต่การจัดตกแต่งห้องก็อาจจะพาให้ลำบากใจไปด้วย ซึ่งถ้าคุณกำลังเผชิญปัญหานี้อยู่ ลองมาดูวิธีการแต่งห้องขนาดเล็กด้วยเทคนิคง่ายๆ ที่จะทำให้ห้องของคุณดูใหญ่ขึ้น ไม่ว่าห้องแบบไหนก็ทำได้ ดังต่อไปนี้
-
เลือกโทนสีให้ถูก
ถ้าต้องการให้ห้องกว้างขึ้นแบบง่ายๆ คุณควรเลือกห้องที่ใช้โทนสีอ่อนเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นสีขาว, สีชมพูอ่อน, สีครีม หรือสีฟ้าอ่อน แต่ควรเลือกใช้เป็นเฉดสีพาสเทลทั้งพื้นและผนัง รวมไปถึงฝ้าเพดาน เพื่อทำให้ห้องเกิดมิติที่ดูกว้างขึ้นและสบายตากว่าเดิม นอกจากนี้วิธีการผสมผสานระหว่างสีเข้มกับสีอ่อนบนผนัง เพดาน และพื้นสลับกันจะเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยเพิ่มมิติให้ห้องดูกว้างและแปลกตามากขึ้นด้วยเช่นกัน เพียงแต่การผสมผสานสีจะต้องเป็นไปอย่างสมดุลและควรเลือกใช้เพียงแค่ 2 สีเท่านั้น แต่ที่ได้รับความนิยมสูงในยุคนี้จะเป็นห้องโทนสีขาวแล้วใช้ขอบประตู หน้าต่าง หรือแม้แต่ราวเหล็กกั้นตรงโซนระเบียงนอกเป็นโทนสีดำทั้งหมด พร้อมการใช้เฟอร์นิเจอร์บางส่วนภายในห้องที่ตัดด้วยโทนสีต่างๆ เพื่อทำให้ห้องดูกว้างและดูมีจุดเด่นที่ชวนให้มองมากขึ้น ไม่ทำให้ห้องดูจืดจนกลายเป็นว่างเปล่าเกินไป
-
ติดกระจกเพิ่ม
หนึ่งในเทคนิคการเพิ่มพื้นที่ภายในห้องด้วยการพรางตาจากกระจกได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะเพียงแค่คุณติดกระจกเพิ่มที่ผนังด้านใดด้านหนึ่ง หรือเป็นการติดตั้งใกล้กับประตูระเบียงและหน้าต่างกระจก จะช่วยทำให้แสงสว่างส่องเข้ามาภายในห้องและกระทบกับกระจกจะช่วยกระจายแสงออกได้ดี ทำให้มีแสงสว่างทั่วถึงกันทั้งห้อง พร้อมทำให้ห้องสว่างตลอดทั้งวัน จึงพรางตาให้ดูกว้างขึ้นและช่วยประหยัดไฟได้ดี แต่ไม่ควรให้โดนแสงแดดแรงมากจนเกินไป เพราะอาจจะกลายเป็นการทำให้ห้องร้อนมากกว่าเดิม ดังนั้นจึงควรตั้งให้ห่างจากประตูหรือหน้าต่างกระจกเล็กน้อยและใช้เป็นผ้าม่าน สีขาวหรือสีโทนสว่างแบบเนื้อผ้าบาง เป็นตัวกั้นระหว่างกระจกประตู-หน้าต่างกับกระจกเงาภายในห้อง ส่วนรูปทรงของกระจกนั้นไม่ว่าคุณจะเลือกแบบเต็มตัวหรือครึ่งตัว เพียงแค่ติดกับผนังไว้ตรงจุดที่เหมาะสมจะช่วยพรางตาให้ห้องดูกว้างขึ้นได้อย่างแน่นอน
-
วอลเปเปอร์ต้องลายเดียวกัน
ถ้าเลือกใช้วอลเปเปอร์ควรเลือกเป็นลวดลายเดียวกันหมดทั้งห้อง แม้กระทั่งพื้นก็ควรเป็นลายที่ใกล้เคียงด้วยเช่นกัน แต่เพดานควรให้เป็นสีพื้นอย่างสีขาวเท่านั้น เพื่อไม่ทำให้ดูลายตามากเกินไป แต่ส่วนสำคัญที่สุดคือวอลเปเปอร์ผนังทุกด้านและทุกมุมจะต้องเป็นลายเดียวกันทั้งหมดและต้องมีรอยต่อวอลเปเปอร์ที่แนบเนียน เท่านี้ก็จะช่วยพรางตาให้ห้องดูกว้างกว่าเดิมและทำให้การแต่งห้องไม่ยุ่งยากจนเกินไปอีกด้วย
-
เพิ่มแสงสว่างในจุดอับ
ถ้าภายในห้องของคุณมีจุดใดเป็นมุมมืดหรือจุดอับที่แสงจากหน้าต่างส่องไปไม่ถึง คุณควรติดตั้งไฟหลุมหรือไฟส่องแบบ LED เพิ่ม เพื่อทำให้พื้นที่นั้นดูไม่อับจนเกินไป เมื่อมีแสงสว่างเพิ่มในจุดที่เหมาะสมแล้วจะช่วยพรางตาและสร้างความรู้สึกว่าห้องกว้างขึ้นได้ดี ถ้าต้องการความสวยงามเพิ่มควรเลือกใช้เป็นไฟแบบ Track light หรือโคมไฟแบบรางที่จะติดตั้งบนผนังแล้วส่องลงมาตรงมุมมืด พร้อมให้แสงสว่างแบบ LED ที่มีความสวยงามเพิ่มมากขึ้น จึงทำให้ผู้ที่อยู่รู้สึกไม่อึดอัดมากเกินไปและสบายตาด้วยแสงไฟในโทน Cool Light การเลือกสีของแสงไฟควรเลือกเป็นโทนเย็น เช่น สีขาวสว่างและสีขาวออกบลูไลท์ เป็นต้น เพื่อทำให้เย็นสบายตาและไม่ทำให้ห้องรู้สึกร้อนกว่าเดิม
-
เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์มัลติฟังก์ชั่น
เฟอร์นิเจอร์ในสไตล์มัลติฟังก์ชั่นจะเป็นหนึ่งในตัวช่วยสำคัญที่ทำให้ห้องกว้างขึ้นได้อย่างชัดเจน เช่น การใช้เตียงที่สามารถพับเก็บได้หรือซ่อนไปกับตู้หนังสือ เมื่อต้องการนอนเพียงแค่ดึงเตียงลงมาแล้วพักผ่อนได้อย่างสบายใจ หลังจากการตื่นแล้วก็สามารถพับเตียงเพื่อเก็บแล้วเพิ่มพื้นที่ภายในห้องได้มากขึ้น พร้อมการใช้ชีวิตได้ตามปกติ รวมไปถึงตู้, โต๊ะ, เก้าอี้ และเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ที่สามารถเก็บของแล้วซ่อนตัวเองตามผนังหรือมุมห้องได้อย่างแนบเนียน นอกจากนี้การใช้ตู้แบบ Built in ลอยตัวจะช่วยทำให้พื้นที่ภายในห้องเพิ่มมากได้ขึ้นอีกด้วย
6 สไตล์การแต่งบ้านที่ช่วยเพิ่มพื้นที่ได้ดี
ถ้าคุณไม่ได้อยู่ภายในห้องขนาดเล็กแต่เป็นบ้านพื้นที่น้อย จึงทำให้การอยู่อาศัยของคนภายในครอบครัวอาจจะรู้สึกอึดอัด จึงต้องการวิธีตกแต่งบ้านเพื่อพรางตาให้ดูโปร่งสบายและน่าอยู่มากขึ้น ขอแนะนำ 6 สไตล์การตกแต่งบ้านที่จะช่วยเพิ่มพื้นที่ภายในบ้านและห้องต่างๆ ได้มากกว่าเดิม ให้สไตล์การตกแต่งที่มีเอกลักษณ์ พร้อมให้ความสวยงามและประโยชน์ต่อการใช้ชีวิตมากขึ้น ดังนี้
-
สไตล์มินิมอล
สไตล์มินิมอลถือว่าเป็นหนึ่งในการตกแต่งบ้านที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เพราะด้วยคอนเซ็ปต์ของมินิมอลลิสที่เน้นเรียบง่าย น้อยแต่มาก จึงทำให้เห็นถึงภาพของการแต่งบ้านที่ไม่จำเป็นต้องใช้เฟอร์นิเจอร์จำนวนมาก แต่กลับให้ประโยชน์แบบครบถ้วน เพียงแค่คุณเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่มีประโยชน์ในการใช้ชีวิตประจำวันมาตั้งไว้ตรงจุดที่เหมาะสม ส่วนเฟอร์นิเจอร์อื่นที่ไม่เกี่ยวข้องให้ลดทอนลงไปให้หมดและตกแต่งอย่างเรียบง่ายที่สุด เลือกใช้เป็นสีโทนเดียวอย่างเช่นสีขาว สีดำ หรือสีเทา รวมไปถึงการใช้โมโนโทนแบบสีอ่อนหรือถ้าต้องการลูกเล่นให้เลือกใช้เป็นโทนสีเข้มกับสีอ่อนตัดกันได้ แต่จะหลีกเลี่ยงโทนสีฉูดฉาดเพื่อทำให้เฉดสีภายในบ้านเกิดความสมดุล มากที่สุด พร้อมการใช้เฟอร์นิเจอร์ในดีไซน์ Modern มินิมอลที่เน้นเรื่องการใช้งานเป็นหลัก ส่วนรูปทรงจะมาในแบบเรขาคณิตที่เน้นความเรียบง่าย จึงทำให้พื้นที่ภายในบ้านเพิ่มมากขึ้นและได้ดีไซน์ที่มีความเก๋ไม่เหมือนใครอีกด้วย
Cr.thesleepjudge.com -
สไตล์โมเดิร์น
โมเดิร์นเป็นสไตล์ยอดนิยมที่มีมาอย่างยาวนานและยังคงได้รับความนิยมมาจนถึงปัจจุบัน เพราะด้วยเฟอร์นิเจอร์ของโมเดิร์นที่สามารถเข้าชุดกับทุกสไตล์การแต่งบ้านได้อย่างลงตัว พร้อมด้วยรูปทรงที่เป็นเรขาคณิตจึงสามารถเข้ามุมได้กับทุกพื้นที่ เน้นวิถีของการตกแต่งที่มีความเรียบง่ายแต่ทันสมัย ไม่จำเป็นต้องมากแต่ใช้งานได้ครบถ้วน จะมีความคล้ายคลึงกับสไตล์มินิมอล แต่จะเด่นกว่าในเรื่องของสีสัน เพราะโมเดิร์นนั้นจะไม่ตายตัวอยู่แค่ไม่กี่สีหรือสีพื้นฐานเท่านั้น สามารถนำสีต่างๆ มาผสมกันได้ เพียงแค่จะต้องเป็นสีในโทนเดียวกัน เช่น ถ้าใช้โทนชมพูต้องใช้เป็นชมพูอ่อน, ชมพูพีช, ชมพูโอรส และชมพูพาสเทล เป็นต้น ซึ่งการตกแต่งบ้านสไตล์นี้ไม่ได้ให้พื้นที่เพิ่มขึ้นเท่านั้น แต่ช่วยพรางตาให้บ้านดูโล่งกว้าง มีความสว่าง เพิ่มความรู้สึกที่ผ่อนคลายเบาสบายจากความเรียบง่าย การใช้กระจกเป็นส่วนใหญ่และการใช้ผนังแบบเปลือยที่ไม่จำเป็นต้องติดวอลเปเปอร์หรือรูปภาพใดๆ ให้วุ่นวาย ถือว่าเป็นหัวใจหลักของโมเดิร์นที่จะทำให้ผู้อยู่อาศัยมีความสุขมากขึ้น
Cr.pinterest.com -
สไตล์ลอฟท์
การตกแต่งสไตล์ลอฟท์เป็นการแตกยอดออกมาจากความเป็น Modern และ Industrial จะเพิ่มพื้นที่ให้บ้านดูกว้างขึ้นและทำให้สบายตามากกว่าเดิม จากการตกแต่งที่เน้นความโปร่งสบาย เรียกได้ว่าแทบไม่มีเพดานไม่เห็น เพราะจะเป็นการเปิดเผยทุกส่วน ตั้งแต่ผนัง เพดาน และพื้น เพื่อทำให้ดูดิบ เท่ และเข้มข้น โดยจะเน้นการใช้โทนสีเข้มแทบทั้งหมด แต่จะเป็นการผสมผสานกับวิธีการใช้ของตกแต่งและเฟอร์นิเจอร์ที่เน้นเป็นโครงเหล็ก ไม้ สลิง และวัสดุที่มีความแข็งแรง แต่ดีไซน์โปร่ง ไม่ทึบ และทำให้พื้นที่ภายในบ้านปลอดโปร่งมากที่สุด จะไม่วางเฟอร์นิเจอร์มากจนเกินไปและจะมีการปลูกไม้ประดับกับไม้ฟอกอากาศภายในบ้านเพิ่มเพื่อทำให้เกิดความสดชื่น ซึ่งการตกแต่งแบบลอฟท์จะให้พื้นที่กว้างมากขึ้น เพราะการไม่มีฝ้าเพดานจึงทำให้ดูสูงขึ้นและโปร่งกว่าเดิม รวมไปถึงการติดตั้งกระจกตามส่วนต่างๆ ของบ้านให้มากขึ้น เพื่อการนำแสงสว่างเข้ามาในบ้านได้ดี นอกจากนี้เฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านก็ไม่จำเป็นต้องมีมากจนเกินไปและสไตล์ลอฟท์มักจะเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่เคลื่อนย้ายได้ง่าย จึงปรับเปลี่ยนรูปแบบการแต่งบ้านได้ตลอดเวลา
Cr.pinterest.com -
สไตล์สแกนดิเนเวียน
การตกแต่งบ้านในสไตล์สแกนดิเนเวีย เพิ่งได้รับความนิยมในช่วงหลายปีหลังมานี้ เนื่องมาจากการผสมผสานระหว่างความเป็นโมเดิร์นและความคลาสสิคเอาไว้ได้อย่างลงตัว พร้อมความเด่นในเรื่องของดีไซน์เฟอร์นิเจอร์ที่ถูกพัฒนาจนทำให้กลายมาเป็นรูปแบบการตกแต่งบ้านที่น่าสนใจ พร้อมทำให้บ้านโปร่งสบายและดูโล่งมากขึ้นด้วยการใช้เฟอร์นิเจอร์ในแบบเดียวกับโมเดิร์น เน้นใช้สีในโทนอบอุ่น เพื่อทำให้ใกล้เคียงกับสีของธรรมชาติมากที่สุด มีการปลูกต้นไม้และการติดตั้งกระจกในบางจุด เพื่อทำให้บ้านสว่างจากแสงธรรมชาติและทำให้มองเห็นบรรยากาศรอบด้านที่ชัดเจนมากขึ้น เพียงแต่กระจกที่ติดตั้งนั้นจะต่างจากกระจกเต็มตัวในแบบโมเดิร์น สไตล์สแกนดิเนเวียนจะเน้นเป็นกระจกสี่เหลี่ยมที่ไม่สูงมากแต่เน้นเป็นแนวยาวเพื่อทำให้มองเห็นบรรยากาศนอกบ้านที่คล้ายดั่งงานศิลปะบนผนัง พร้อมการตกแต่งด้วยพรม ขนสัตว์ หินอ่อน และวัสดุที่มีพื้นผิวคล้ายคลึงกับธรรมชาติ
สำหรับสไตล์สแกนดิเนเวียนได้รับความนิยมให้กลายมาเป็นบ้านที่ช่วยทำให้พื้นที่เล็กกว้างขึ้นได้ เพราะเลือกใช้วัสดุแบบคล้ายธรรมชาติกับวัสดุที่มีความแวววาว การใช้กระจกนำแสงสว่าง พร้อมไปด้วยการใช้โทนสีอ่อนเป็นหลัก จึงทำให้เกิดความรู้สึกผ่อนคลายสบายตาและการเน้นให้แสงสว่างส่องเข้าถึงบ้านอย่างชัดเจนเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่จะทำให้บ้านดูโล่งขึ้น แม้แต่ห้องพักขนาดเล็กก็สามารถใช้การตกแต่งแบบสแกนดิเนเวียนได้อย่างลงตัว จึงเป็นหนึ่งในตัวเลือกแต่งบ้านและแต่ห้องขนาดเล็กสุดอินเทรนด์ที่คุณไม่ควรพลาด!Cr.onlydecolove.com -
สไตล์วิคตอเรียน
ถ้าคุณชื่นชอบกลิ่นอายของความคลาสสิคและให้ความหรูหราในแบบผู้ดีอังกฤษ Victorian จะช่วยตอบโจทย์ความต้องการของคุณได้ดีที่สุด เพราะสไตล์นี้จะเป็นความคลาสสิคในแบบอังกฤษที่เด่นชัด แต่จะเน้นเรื่องของความกลมกลืนไปกับธรรมชาติ ความโปร่งสบายและการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่ไม่จำเป็นต้องมาก แต่บ่งบอกให้เห็นถึงความเรียบหรูได้ดี โดยจะเลือกใช้เป็นเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งในแบบวินเทจกับคอทเทจที่ให้กลิ่นอายของหนังและลวดลายบนผืนผ้า พร้อมการจัดวางส่วนต่างๆ ภายในห้องอย่างเป็นระเบียบ เรียบง่ายด้วยลวดลายแบบเรขาคณิต พร้อมเพิ่มความสดชื่นด้วยการปลูกต้นไม้ฟอกอากาศ การใช้แจกันดอกไม้สดและการใช้ลวดลายดอกไม้บนโซฟาที่จะทำให้เห็นถึงเอกลักษณ์ของความเป็นสไตล์อังกฤษอย่างชัดเจน ด้วยวิธีการแต่งบ้านที่จะดันเฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นไปติดผนังและจะมีเพียงแค่ชุดโซฟาที่อยู่ติดกับหน้าต่าง ของตกแต่งที่เป็นภาพจะติดอยู่บนผนัง จะไม่เน้นใช้งานสถาปัตยกรรม จึงทำให้ดีไซน์นี้ได้ทั้งรสนิยมของความเป็นอังกฤษแท้และบ้านที่ดูกว้างมากขึ้นอีกด้วย
Cr.crismatec.com -
Duplex สไตล์ญี่ปุ่น
การตกแต่งบ้านแบบ Duplex ในสไตล์ญี่ปุ่น ช่วยทำให้บ้านดูกว้างขึ้นได้เช่นกัน เพราะการสร้างพื้นที่แบบ Double Space ที่มีช่องเปิดโล่งของชั้นสองจะทำให้เพดานดูสูงขึ้น จึงเพิ่มความรู้สึกโปร่งและบ้านดูโล่งกว่าเดิม บรรยากาศของบ้านจะเป็นแนวราบมากขึ้น เพียงแต่การตกแต่งในสไตล์นี้อาจจะต้องยอมเสียสละพื้นที่ครึ่งหนึ่งของชั้น 2 เพื่อทำให้ห้องรับแขกดูกว้างกว่าเดิม สำหรับการทำให้เป็นสไตล์ญี่ปุ่นจะเน้นในเรื่องของความเรียบง่าย ใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้เป็นหลัก และสีสันจะเลือกใช้เป็นโทนสีใดสีหนึ่ง เช่น ถ้าเลือกใช้เป็นโทนสีอ่อนจะถูกคุมโทนอยู่ที่สีขาว, สีครีม, สีเหลืองอ่อน หรือสี ในโทนพาสเทลทั้งหมด แต่ถ้าเป็นสีเข้มจะถูกคุมโทนเป็นสีน้ำตาลเข้ม, สีม่วงเข้ม, สีดำ สีน้ำเงินกรม และสีเทาเข้ม เป็นต้น
ซึ่งเฟอร์นิเจอร์ไม้ที่ใช้จะต้องเป็นสีและลวดลายของเนื้อไม้เท่านั้น พร้อมการใช้ของตกแต่งหรือเฟอร์นิเจอร์ที่เป็นโครงเหล็กเสริมเพื่อสร้างความแข็งแรงมากขึ้น สำหรับความเป็น Duplex แบบญี่ปุ่นภายในห้องที่ไม่กว้างมากจะเลือกใช้เป็นลักษณะของเตียง 2 ชั้น หรือห้องรับแขกในคอนโดที่ชั้นบนเป็นห้องนอนครึ่งหนึ่งและชั้นล่างใต้ห้องนอนเป็นโซฟาและห้องรับแขกที่ผสมผสานพื้นที่ 2 รูปแบบได้อย่างลงตัวarchdaily.com
แม้ว่าการอยู่ภายในห้องขนาดเล็กหรือบ้านพื้นที่น้อย จะทำให้รู้สึกอึดอัดและการตกแต่งอาจจะยุ่งยากไปด้วย แต่ถ้าคุณสามารถเลือกวิธีการตกแต่งที่ดี มีเทคนิคช่วยเพิ่มพื้นที่ และเลือกสไตล์ได้อย่างเหมาะสม รับรองว่าห้องขนาดเล็กหรือบ้านพื้นที่น้อยของคุณจะสร้างความสุขในการอยู่อาศัยทุกๆ วันได้ดีอย่างแน่นอน