เลือกเฟอร์นิเจอร์ห้องนอนให้ถูกใจ

เฟอร์นิเจอร์และของแต่งที่มีในห้องนอนประกอบด้วยอะไรบ้าง

การจัดห้องนอนของแต่ละคนก็จะแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับปัจจัยเช่น งบประมาณในการแต่งห้องนอน ขนาดของห้องนอน ช่วงวัยของเจ้าของห้องนอน เป็นต้น

เราจะมาดูกันว่าเฟอร์นิเจอร์ห้องนอนที่จำเป็นจำเป็นหลักๆควรจะมีอะไรบ้าง และมีอะไรบ้างที่เป็นส่วนเสริมทำให้ห้องนอนเป็นห้องชาร์จพลังที่ดีที่สุดของแต่ละคน

ตู้เสื้อผ้า, ตู้เสื้อผ้าบานเปิด, ตู้เสื้อผ้าบานเลื่อน

ตู้เสื้อผ้าที่เราจะมีไว้ในห้องนอนหลักๆจะมีอยู่ 2 รูปแบบคือ ตู้เสื้อผ้าแบบตั้งลอย และตู้เสื้อผ้าแบบ built in โดยรูปแบบของชุดประตูตู้เสื้อผ้าก็จะมีทั้งแบบบานเลื่อน และบานเปิด และองค์ประกอบหลักๆในตู้เสื้อผ้าโดยทั่วไปก็จะมีราวแขวนผ้า, ลิ้นชัก, กระจกเงา เป็นต้น

• การเลือกซื้อตู้เสื้อผ้าเพื่อนำมาวางในห้องนอนของเรานั้นแบ่งพิจารณาได้ดังนี้
  ขนาดของตู้เสื้อผ้า และขนาดห้อง รวมถึงขนาดของเฟอร์นิเจอร์อื่นๆที่วางในห้องนอน โดยจะต้องคำนึงพื้นที่การเดินสัญจรภายในห้องให้เดินได้สะดวกและไม่อึดอัด
• ชนิดของตู้เสื้อผ้า เราจะเลือกตู้เสื้อผ้าแบบ built in หรือตู้เสื้อผ้าแบบตั้งลอย ถ้าคิดว่าในอนาคตเราจะมีการปรับเปลี่ยนพื้นที่ในห้องนอนหรือจัดรูปแบบใหม่เราก็อาจจะเลือกแบบตั้งลอยก็ได้เพื่อให้สะดวกในการเปลี่ยนตู้เสื้อผ้าใหม่หรือย้ายตู้เสื้อผ้าไปไว้มุมอื่นเป็นต้น ส่วนข้อดีของการทำตู้เสื้อผ้าแบบ built in ก็คือเราจะออกแบบพื้นที่การใช้งานในตู้เสื้อผ้าได้เหมาะสมกับของที่เราจะวางในตู้เสื้อผ้าแล้วตู้เสื้อผ้าแบบ built in ก็จะสวยกลมกลืนเขากลับห้องของเรา
• ชนิดของบานประตูและลิ้นชักและฟังก์ชั่นการใช้งานในตู้เสื้อผ้า การเลือกใช้บานประตูแบบบานเลื่อนก็จะช่วยประหยัดพื้นที่ในระหว่างการเปิดประตูเหมาะกับห้องที่ไม่ใหญ่หรือมีพื้นที่สัญจรน้อย แต่ถ้าอยากเปิดประตูแบบของๆก็ต้องเป็นตู้เสื้อผ้าบานเปิด จะทำให้เห็นของภายในได้ทั้งหมดการหยิบเสื้อผ้าเข้าออกสะดวก และสุดท้ายอย่าลืมพิจารณาพื้นที่แขวนผ้ากลับเสื้อผ้าที่คุณมีอยู่ด้วยพื้นที่พอหรือเปล่าที่จะเก็บชุดตัวเก่งของคุณ

เตียงนอน

เตียงนอนเป็นสิ่งสำคัญลำดับต้นๆของห้องนอนเลยก็ว่าได้ แต่ก็มีห้องนอนบางบ้าน ที่ไม่ได้มีเตียงนอน ถ้าจะใช้วิธีการปูห้องนอนหรือฟูกทดแทน เช่นบ้านที่เน้นนั่งกับพื้นเป็นหลัก เพราะส่วนมากจะไม่มีเฟอร์นิเจอร์ยกสูง เลยไม่จำเป็นต้องมีเตียง

สำหรับบ้านที่กำหนดว่าต้องการเตียงนอนในห้องนอนนั้น ก็มีปัจจัยในการเลือกเตียงนอนให้เหมาะกับห้องดังนี้

• ขนาดของเตียง เราจะต้องพิจารณาขนาดของเตียงโดยดูขนาดของห้องนอน ไซส์เตียงมาตรฐานก็จะมี 3 ฟุต 3.5 ฟุต 4 ฟุต 5 ฟุต 6 ฟุต เป็นต้น
• จำนวนคนที่ใช้เตียงนั้นด้วย เพื่อให้การนอนเหมาะสม เผื่อพลิกตัว นอนตะแคง เป็นต้น
• รูปแบบและสไตล์ของเตียง ส่วนมากควรเลือกตามสไตล์ของห้องนอนเพื่อให้เหมาะสมสวยงาม และฟังก์ชั่นการใช้งานที่ตอบโจทย์

ที่นอน

ที่นอนสำคัญที่สุดที่ควรมีในทุกห้องนอน การนอนหลับของเราจะดีหรือไม่ดี ก็ขึ้นกับที่นอนนี่แหละ ว่ารองรับสรีระร่างกายเราดีแค่ไหน เพราะเรามีทั้งนอนตะแคงนอนหงายนอนคว่ำที่นอนจะต้องนอนสบาย นุ่มเกินไปไหม แข็งเกินไปไหม ระบายอากาศดีไหมการยุบตัวของที่นอน เป็นต้น

การพิจารณาเลือกที่นอนให้เหมาะสมกับตัวเอง และคนในครอบครัว มีหลักการดังนี้

• รูปแบบของที่นอน ก็จะมีทั้งแบบเป็นฟูกที่นอน ที่นอนพับได้ ที่นอนสปริง ที่นอนโฟมและยางลาเท็กซ์(ที่นอนยางพารา) ที่นอนใยมะพร้าว ก็ต้องพิจารณาว่าเราจะใช้ในการนอนชั่วคราวหรือใช้ยาวๆแบบไม่เคลื่อนย้าย และรูปแบบรองรับน้ำหนักของที่นอนเราจะเลือกแบบสปริงหรือโฟม ก็ขึ้นกับรูปแบบที่เราชอบต้องลองนอนดูแล้วจะรู้ว่าเหมาะกับเราหรือไม่ เพราะการเด้งได้ยุบตัวของที่นอนจะไม่เหมือนกัน
• ขนาดของที่นอน ส่วนนี้เราพิจารณาตามจำนวนคนที่นอน และขนาดห้อง ต้องพิจารณาทางสัญจรในห้องนอนให้เหมาะสม ซึ่งถ้าเรามีเตียงเราก็เลือกตามขนาดเตียง ก็จะมีตั้งแต่ 3 ฟุต 5 ฟุต 6 ฟุตหรือไซส์อื่นๆตามที่มี แต่ถ้าเราปูนอนวางพื้น ก็จะต้องพิจารณาจากจำนวนคนนอนและความสบายในการขยับตัวพลิกตัว นอนตะแคง นอนหงาย นอนคว่ำ ก็แล้วแต่ท่านอนของแต่ละคน
• เลือกให้เหมาะสมกับวัย ที่นอนของเด็ก ที่นอนของผู้ใหญ่ ที่นอนของผู้สูงอายุ จะแตกต่างกันไป ถ้าที่นอนเด็กเล็กก็อาจจะมีส่วนกั้นไม่ให้เด็กตกที่นอน ถ้าที่นอนผู้ใหญ่ปกติก็เลือกตามใจชอบ และที่นอนของผู้สูงอายุก็อาจจะเลือกแบบที่ฟูกค่อนข้างแข็งและหนาและมีความกว้างพอสำหรับพลิกตัว หรือเลือกที่นอนที่สามารถปรับระดับเอนได้

ส่วนหมอนหนุนศีรษะ ผ้าปู ผ้าห่ม หมอนข้าง จะพูดถึงในโอกาสต่อไป

ตู้วางทีวี

บางทีเราอาจจะเรียกว่า โต๊ะวางทีวี ชั้นวางทีวี ตู้วางทีวี ก็แล้วแต่ว่าแต่ละคนจะคุ้นชิน บางบ้านก็จะไม่ให้มีทีวีในห้องนอนเพื่อการหลับสบายที่สุด แต่บางบ้านบางห้องนอนก็จะมีทีวีไว้ตามแต่ความชอบ ตู้วางทีวีมีการใช้มาตลอดตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน สมัยก่อนเราจะใช้ทีวีที่มีความหนาน้ำหนักเยอะ พัฒนามาเรื่อยๆจนเป็นจอ LED บางๆ ที่สามารถวางตู้วางทีวีหรือยึดติดกับผนังได้อย่างสวยงาม เหลือตู้วางทีวีนี่เองก็เป็นทั้งเฟอร์นิเจอร์และสามารถเก็บของและเสริมให้ห้องนอนสวยงามได้ด้วย

ตู้วางทีวีจะมีหลายรูปแบบ เช่น ตู้ทีวีแบบบิ้วอิน และแบบลอยตัว ตู้โล่ง หรือมีลิ้นชัก วัสดุมีทั้งไม้ พลาสติก และโลหะ ขึ้นอยู่กับการออกแบบ เราสามารถเลือกพิจารณามาตกแต่งห้องนอนได้ดังนี้

• ขนาดห้องและขนาดตู้วางทีวี โดยพิจารณาจากการเดินสัญจรในห้องนอน จะต้องเดินได้อย่างสะดวกไม่อึดอัดไม่เดินชน หรือการก้มลงเปิดลิ้นชักและประตูตู้จะต้องสะดวกไม่ติดขัด มีพื้นที่ในการยืน, นั่งหน้าตู้ เป็นต้น
• ความสวยงามของตู้วางทีวี และวัสดุของชั้นวางทีวี ควรจะเข้ากันได้กับเตียงนอนและ สไตล์ของห้องนอน
• เลือกตามฟังก์ชั่นการใช้งาน ต้องการวางของอะไรบนชั้นบ้าง ต้องการเก็บอะไรไว้ในลิ้นชักบ้าง ต้องการโชว์อะไรบ้าง ทีวีจะวางบนขาตั้งตู้วางทีวีหรือจะยึดทีวีไว้ที่ผนัง เป็นต้น

ตู้เก็บของ

ห้องนอนบางห้องไม่ได้จำเป็นที่จะต้องมีตู้วางทีวีแต่อาจจะจำเป็นต้องมีตู้เก็บของไว้ในห้องนอน ใช้วางของเก็บของต่างๆ อย่างเช่น หนังสือ เสื้อผ้า อุปกรณ์เครื่องแต่งกาย กระเป๋า นาฬิกา เครื่องใช้ไฟฟ้าเล็กๆน้อยๆ อย่างเช่น เตารีด ไดร์เป่าผม และอื่นๆ จะทำให้ห้องดูเรียบร้อยโล่งโปร่งไม่รกห้อง

ตู้เก็บของก็จะมีหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็น ตู้ที่มีลิ้นชัก ตู้สูงโล่ง ตู้สูงบานกระจก ตู้ข้างเตียง และอื่นๆ เราจะมีวิธีเลือกยังไงให้เหมาะสมกับห้องนอนของเรา

• เลือกตามฟังก์ชั่นการใช้งานและดูตามปริมาณของที่จะเก็บ เลือกขนาดของลิ้นชัก บานประตูแบบทึบ หรือแบบใสโชว์ของ
• เลือกตามความสวยงามและสไตล์ของห้อง อาจจะดูเรื่องวัสดุ และวัสดุปิดผิว จะเป็นผิวเรียบ ผิวลามิเนต ผิวไม้ จะให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันออกไป รวมถึงธีมสีที่เข้ากับห้อง และเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ
• เลือกตามขนาดของห้องและขนาดของตู้ และรูปแบบของบานประตู จะใช้เป็นบานเลื่อนหรือบานเปิด ดูการเดินสัญจรภายในห้องนอน จะต้องสะดวกสบาย ไม่เดินชน

โต๊ะเครื่องแป้ง

ในส่วนของโต๊ะเครื่องแป้งประจำห้องนอน ก็จะมีทั้งโต๊ะเครื่องแป้งแบบนั่ง และโต๊ะเครื่องแป้งแบบยืน เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้ เพราะต้องใช้ในการดูแลความงามบนใบหน้าของสาวๆและหนุ่มๆ บนโต๊ะเครื่องแป้งก็จะมีอุปกรณ์แต่งความสวยงามหลายอย่าง เช่นพวกเครื่องสำอาง, ไดร์เป่าผม อุปกรณ์แต่งผม ครีมต่างๆ และพวกเครื่องประดับต่างๆ เป็นต้น

โต๊ะเครื่องแป้งมีหลายแบบหลายสไตล์ เช่น โต๊ะเครื่องแป้งแบบนั่ง โต๊ะเครื่องแป้งแบบยืน โต๊ะเครื่องแป้งเกาหลี โต๊ะเครื่องแป้งสไตล์นอร์ดิก โต๊ะเครื่องแป้งสไตล์ยุโรป โต๊ะเครื่องแป้งกระจกบานเลื่อนแบบมีลิ้นชักใหญ่ โต๊ะเครื่องแป้งเกาหลีแบบนั่งพื้น เก๋ไปอีกแบบ จะมีวิธีเลือกดังนี้

• ถ้าห้องนอนของเราเน้นนั่งพื้นเป็นหลัก ที่นอนปูติดพื้นไม่มีเตียง เราก็ควรเลือกรูปแบบโต๊ะเครื่องแป้งแบบนั่งพื้น จะได้กลมกลืนไม่สูงโดดจากเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ
• ถ้าห้องนอนเราเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่มีความสูงเป็นหลัก เราก็อาจจะเลือกโต๊ะเครื่องแป้งแบบนั่ง มีเก้าอี้สำหรับนั่งแต่งหน้า หรือไม่ก็โต๊ะเครื่องแป้งแบบยืนได้เช่นกัน ไม่มีเก้าอี้มาเกะกะ แถมยังสามารถใช้กระจกดูเรื่องของการแต่งกายได้อีกด้วย
• การเลือกไฟส่องสว่างสำหรับโต๊ะเครื่องแป้งก็สำคัญไม่แพ้กัน ถ้าห้องไม่ได้มีแสงธรรมชาติหรือไม่ค่อยสว่าง ก็อาจจะต้องเพิ่มตัวช่วยเช่นไฟปิงปอง ไฟสีเหลือง ไฟสีขาว เพื่อให้การแต่งหน้าได้สีที่แท้จริงถูกต้อง
• เลือกสไตล์ของโต๊ะเครื่องแป้งให้เข้ากับธีมห้องนอน

โต๊ะทำงาน

โต๊ะทำงานที่ว่านี้อาจจะเป็นโต๊ะที่สำหรับทำงานจริงๆหรือโต๊ะสำหรับคอมพิวเตอร์ หรือแม้แต่โต๊ะเล่นเกม โต๊ะวางคอมพิวเตอร์ โต๊ะวางโน๊ตบุ๊ค ถ้าคุณไม่ได้แยกพื้นที่โต๊ะทำงานออกจากห้องนอนแล้วก็ ก็มีความจำเป็นอย่างสูงที่จะต้องมีโต๊ะเหล่านี้ไว้ในห้องนอน

รูปแบบของโต๊ะเหล่านี้ก็จะแตกต่างกันออกไปตามวัตถุประสงค์การใช้งาน อย่างเช่นเอาไว้สำหรับเล่นเกมออนไลน์โดยเฉพาะ หรือเอาไว้นั่งทำงานสบายๆไม่จริงจังมากนัก หรือจะเอาไว้ทำงานแบบจริงจังก็จะต้องมีอุปกรณ์สำนักงานครบครันเพิ่มเข้ามา ถ้าเป็นห้องนอนของเด็กเล็กก็อาจจะมีโต๊ะนั่งเขียนหนังสือสำหรับเด็กน่ารักๆ โดยเฉพาะเหล่านี้ก็จะมีช่องเก็บของอย่างเช่นลิ้นชักหรือชั้นวางหนังสือประกอบเข้ามาด้วย

สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งที่ลืมไม่ได้คือเรื่องของแสงสว่าง รออาจจะเลือกโคมไฟให้เหมาะกับการอ่านหนังสือหรือนั่งเล่นคอมพิวเตอร์ จะได้ไม่เสียสายตา โต๊ะทำงานก็มีหลายขนาดเริ่มตั้งแต่ 120 ซ.ม. หรือ 1.2 เมตรไปจนถึง 2 เมตรเลยทีเดียว

วิธีการเลือกโต๊ะทำงานเอาไว้ในห้องนอนเราจะใช้ปัจจัยไหนบ้างมาเป็นเกณฑ์ในการตัดสิน ลองดูไอเดียของเราดูนะ

• ขนาดไซส์ของโต๊ะทำงานเทียบกับขนาดห้องนอน และพื้นที่ในการสัญจรในห้อง ต้องเหมาะสมกัน
• ฟังก์ชั่นการใช้งานของโต๊ะทำงาน เราจะเอาไว้ทำอะไรบ้าง ไว้วางคอมสำหรับเล่นเกม ก็อาจจะมีเพิ่มเรื่องของลำโพง(หรือจะใช้หูฟังก็ได้) แต่งด้วยแสงสี rgb หรือเอาไว้เป็นแค่ตัวอ่านหนังสือก็อาจจะมีหนังสือที่ชอบอ่านวางบนชั้นข้างๆโต๊ะ ทำให้หยิบสะดวก
• สไตล์และวัสดุของโต๊ะทำงาน เลือกให้แมทกับเตียงและห้อง ก็จะดูกลมกลืนลงตัวและสวยมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะไม้ โต๊ะเหล็ก ขาไม้ ขาเหล็กก็ตาม ลองเลือกดูให้มีธีมสีเดียวกับเตียงและตู้ก็จะดูเข้ากันมากขึ้น
• โต๊ะทำงานแบบปรับระดับได้ เป็นไอเดียใหม่สำหรับคนยุคนี้ เวลานั่งทำงานไปเมื่อยเมื่อยก็ปรับระดับให้เป็นโต๊ะยืนทำงานได้ ช่วยเผาผลาญพลังงานลดการสะสมไขมันที่ท้อง และทำให้ไม่ง่วงระหว่างยืนทำงาน ลดภาวะออฟฟิศซินโดรมได้อีกด้วย

ผ้าม่านและมู่ลี่

ในเฟอร์นิเจอร์ประเภทผ้าม่านและมู่ลี่แบ่งเป็นได้หลายแบบ เป้าหมายสำคัญของผ้าม่านและมู่ลี่ คือ เรื่องของความเป็นส่วนตัว เรื่องของแสง เรื่องของเสียง เรื่องของอุณหภูมิ นอกนั้นก็จะเป็นเรื่องของความสวยงามและชนิดของวัสดุที่ต้องคำนึง จะมีผ้าม่านแบบต่างๆดังนี้ ผ้าม่านตาไก่, ผ้าม่านพับ, ผ้าม่านจีบ, ผ้าม่านม้วน, ผ้าม่านคอกระเช้า, ผ้าม่านปรับแสง, มู่ลี่ PVC, มู่ลี่ไม้ เป็นต้น

ชนิดผ้าที่นำมาใช้เป็นผ้าม่านจะมีหลักใหญ่อยู่ 2 ชนิด คือ ผ้าม่านทึบแสง (ผ้าทึบแสงนี้ ลมและแสงจะผ่านไม่ได้เลย) อีกตัวคือผ้าโปร่งแสง (แสงผ่านได้นิดหน่อยแล้วแต่วัสดุว่าจะให้ลมผ่านได้หรือไม่)

ส่วนมู่ลี่จะมีลักษณะเป็นแผ่นหน้าแคบแนวนอนหลายๆแผ่นมารวมกันสามารถที่จะปรับหรี่แสงได้ เหมาะกับหน้าต่างบานแคบๆหน่อย

ผ้าม่านและมู่ลี่ มีประโยชน์ดังนี้

• สามารถช่วยกันแสง uva และ uvb ได้ (ขึ้นอยู่กับวัสดุ)
• สามารถช่วยกันความร้อนจากนอกบ้านแผลผ่านกระจกเข้ามาได้
• ช่วยซับเสียงในกรณีวัสดุเป็นผ้า ทำให้ไม่รบกวนการนอน
• ช่วยในเรื่องของการประหยัดพลังงานของเครื่องปรับอากาศ เนื่องด้วยผ้าม่านและมู่ลี่เป็นฉนวนกันความร้อนแบบนึง

ถ้าในเรื่องของอายุการใช้งานและความทนทาน ผ้าม่านจะใช้งานได้นานและทนทานกว่ามู่ลี่ ส่วนการเลือกโทนสีของผ้าม่านและมู่ลี่ให้เข้ากับโทนสีของห้องนอนเรา มีแนวทางในการพิจารณาเลือกใช้งานดังนี้

• ถ้าเลือกม่านโทนสีอ่อน ทำให้ห้องดูกว้างโล่งโปร่ง
• ถ้าเลือกม่านโทนสีเข้ม ทำให้ห้องดูขรึมจริงจัง ทำให้เหมาะกับการนอนแบบหลับลึกยาวๆ
• ถ้าเลือกม่านแบบมีลายใหญ่ๆจะทำให้ห้องดูเล็กลงไม่โล่งเกินไป
• ถ้าเลือกม่านที่มีลายเล็กๆจะทำให้ห้องนอนโดยรวมดูกว้างขึ้น

พรมปูพื้น

พรมปูพื้นถือเป็นอุปกรณ์ตกแต่งบ้านอย่างหนึ่งที่น่าสนใจ แล้วทำไมเราต้องใช้พรมปูพื้นในห้องนอนด้วย โดยเราจะใช้ตกแต่งบ้านให้สวยงามช่วยดักฝุ่นแล้วถ้าเป็นแบบนั้นจะลดแรงกระแทกจากการหกล้มของเด็กหรือผู้สูงอายุ

การเลือกผมให้เข้ากับห้องนอนของเรา

• เลือกตามสไตล์และ concept ของห้องนอนโดยใช้โทนสีของห้อง (คู่สี) และโทนสีบ้านเป็นหลัก
• เลือกตามขนาดของผมไม่ว่าจะเป็นความหนา ความบาง ความหยาบ ความนุ่ม รวมถึงน้ำหนักที่ต้องเหมาะสมกับการใช้งาน
• ความทนทานของพรมปูพื้น เราจะต้องอิงจากวัสดุสเปคของวัสดุ อย่างเช่น พรมpoly propylene, พรมไนลอน, พรมโพลีเอสเตอร์, พรมโพลีเอทีลีน, พร
• ขนสัตว์, พรมอะคริลิค(มีความคล้ายกับพรมขนสัตว์) เป็นต้น พรมที่ดีควรที่จะไม่จับฝุ่น สามารถป้องกันคราบ ป้องกันเชื้อรา และทำความสะอาดง่าย

ชนิดของพรมที่ขายกันในท้องตลาดจะแบ่งเป็นหลายรูปแบบ อย่างเช่น พรมเกรดพรีเมี่ยม, พรมแต่งบ้าน, พรมชนิดหนาพิเศษ, พรมเกรดมาตรฐาน, พรมอเนกประสงค์, เสื่ออเนกประสงค์, พรมอัดเรียบ, พรมปูพื้นอัดลูกฟูก, พรมทอ, พรมแผ่น, พรมถวายวัด เป็นต้น

การดูแล และทำความสะอาดพรม

ส่วนมากแล้วจะใช้วิธีการซักการล้างและการดูดฝุ่น การซักอาจจะใช้ผงซักฟอกน้ำยาทำความสะอาดพรมใช้กำจัดคราบเฉพาะจุด หลังจากทำความสะอาดแล้วก็จะต้องทำให้แห้งหรือเปล่าเฉพาะจุดที่ทำความสะอาด

สำหรับพรมที่ admin แนะนำที่เราจะต้องใช้สำหรับห้องนอน คือ พรมที่มีลักษณะนุ่มฟู ขนหนาแน่น ให้สัมผัสที่นุ่มนวลต่อเท้า